ทุกปลายปี ธุรกิจออนไลน์มักโฟกัสไปที่ยอดขาย แคมเปญ 12.12 หรือโปรปีใหม่ แต่สิ่งที่หลายร้านหลงลืม จนเมื่อถึงเวลากลับเตรียมตัวไม่ทัน คือเรื่องของ “ภาษี” ที่ต้องจัดการในช่วงสิ้นปี
บทความนี้ เราจึงจะพาคุณไปดู Checklist ที่จะช่วยให้คุณสามารถ วางแผนภาษี และบัญชีได้ง่ายและสะดวกขึ้น ผ่านระบบ LnwShop Pro กัน
4 Checklist วางแผนภาษี ปิดปีฉบับมือโปร
1. เอกสารการขาย
ก่อนจะพูดถึงภาษีหรือ e-Tax แบรนด์ควรถามตัวเองก่อนว่า เอกสารการขายต่าง ๆ ของเรานั้น มีอะไรบ้าง และถูกจัดเก็บอย่างไร ซึ่งสิ่งที่แบรนด์ต้องคำนึงถึงคือ
- ร้านค้าของเราออกใบเสนอราคาได้หรือไม่
- ใบแจ้งหนี้ / ใบวางบิล เชื่อมกับออเดอร์จริงหรือเปล่า
- ทีมงานใช้เอกสารรูปแบบเดียวกันทั้งร้านหรือไม่
ใน LnwShop Pro เอกสารเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่ไฟล์ประกอบการขาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของ “กระบวนการธุรกิจ” ที่แบรนด์สามารถตั้งค่า ใบเสนอราคา → ใบแจ้งหนี้ → ใบวางบิล ให้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบได้ เหมาะอย่างยิ่งกับร้าน B2B หรือออเดอร์ที่มีมูลค่าสูง
👉 ดูวิธีตั้งค่าเอกสารการขายที่นี่

2. ใบกำกับภาษี
หลายแบรนด์ยังคงออกใบกำกับภาษีเฉพาะเวลาที่ลูกค้าขอ ซึ่งอาจดูไม่ใช่ปัญหา…จนกระทั่งถึงปลายปี ที่คุณต้องรวบรวมข้อมูล และเช็กว่า
- ออกใบกำกับภาษีได้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
- เรียกดูย้อนหลังได้ง่ายแค่ไหน
- ผูกเอกสารกับออเดอร์จริงหรือยัง
ซึ่งระบบใบกำกับภาษีของ LnwShop Pro จะช่วยให้คุณสามารถออกเอกสารได้ถูกต้อง และตรวจสอบย้อนหลังได้ทันที ไม่ต้องไล่เช็กจากหลายระบบ หากมีการตั้งค่าเปิดใช้งานไว้ล่วงหน้า
👉 ดูวิธีตั้งค่าใบกำกับภาษีที่นี่

3. e-Tax Invoice & e-Receipt
สำหรับหลายร้าน e-Tax Invoice อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องบัญชี หรือไม่มีความจำเป็น แต่ในความเป็นจริง e-Tax Invoice คือ เครื่องมือที่ส่งผลต่อโอกาสทางการขายโดยตรง โดยเฉพาะช่วงปลายปี ดังนั้น สิ่งที่คุณจะต้องเช็กคือ
- ร้านของคุณสามารถออก e-Tax Invoice ได้หรือไม่
- เอกสารที่ออกเป็นรูปแบบที่ถูกต้องตามมาตรฐานหรือเปล่า
- ส่งต่อให้ลูกค้าและฝ่ายบัญชีได้สะดวกหรือไม่
สิ่งที่หลายแบรนด์อาจยังไม่รู้คือ การที่ร้านสามารถออก e-Tax Invoice ได้ จะช่วยให้เข้าร่วมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลช่วงปลายปีได้ง่ายขึ้น เพราะในหลายมาตรการของภาครัฐ เช่น มาตรการลดหย่อนภาษี หรือแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่าย มักกำหนดเงื่อนไขชัดเจนว่า
” ผู้ซื้อจะใช้สิทธิ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) “
ในมุมของลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าองค์กรหรือผู้ซื้อที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อน หากร้านใด “ออก e-Tax ไม่ได้” ร้านนั้นจะถูกตัดออกจากตัวเลือกทันที แม้สินค้าและราคาจะน่าสนใจกว่าก็ตาม
e-Tax Invoice = ความพร้อมของธุรกิจ ไม่ใช่แค่เอกสาร
สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ e-Tax Invoice ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการทำบัญชีให้ถูกต้อง แต่คือการเตรียมร้านให้ พร้อมรับโอกาสทางการขายที่ใหญ่ขึ้น
LnwShop Pro รองรับการใช้งาน e-Tax Invoice & e-Receipt และ e-Tax Invoice by Time Stamp พร้อมไฟล์ PDF/A-3 ที่เป็นมาตรฐาน ช่วยให้ร้านค้าสามารถ
- ออกเอกสารได้ถูกต้อง
- ส่งต่อให้ลูกค้าได้ทันที
- และพร้อมใช้งานเมื่อมีมาตรการหรือแคมเปญจากภาครัฐเข้ามา
👉 ดูขั้นตอนสมัครใช้งาน e-Tax Invoice และวิธีดาวน์โหลดไฟล์ PDF/A-3
Insight สำคัญ: e-Tax ไม่ได้แค่ทำให้แบรนด์งานง่าย แต่ยังช่วยทำให้แบรนด์มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าและแคมเปญระดับประเทศได้มากขึ้นด้วย

4. รายจ่าย & ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ยอดขายดีไม่ได้แปลว่าธุรกิจแข็งแรง ถ้ารายจ่ายไม่เคยถูกบันทึกอย่างเป็นระบบ สิ่งที่คุณต้องเช็กในหัวข้อนี้คือ
- บันทึกรายการจ่ายครบหรือไม่
- รายการไหนต้องออกใบหัก ณ ที่จ่าย
- มีรายงานภาษีพร้อมใช้งานหรือยัง
LnwShop Pro มีระบบ Purchase และระบบออกใบหัก ณ ที่จ่าย พร้อมรายงานสรุป ช่วยให้การปิดบัญชีปลายปีกลายเป็นเรื่องงาน และสามารถคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายคร่าว ๆ ได้ง่ายขึ้น
👉 ดูวิธีการบันทึกรายจ่าย และการตั้งค่าใบหัก ณ ที่จ่าย & รายงานภาษี
การวางแผนภาษีที่ดี ไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดเฉพาะช่วงปลายปี แต่คือการเตรียมระบบให้พร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะเมื่อเอกสารถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ และข้อมูลพร้อมใช้งาน การวางแผนและตัดสินใจทางธุรกิจก็จะง่ายขึ้นตามไปด้วย

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามทางทีมที่ปรึกษาธุรกิจ (LnwShop Pro) ของคุณ หรือคลิกที่นี่หากสนใจใช้งาน LnwShop Pro

Leave a Comment